Introvert คือ คนที่เมื่อได้อยู่กับตัวเองจะรู้สึกดี มีความสุขมาก Introvert มักจะชอบใช้เวลาทำอะไรคนเดียว ไม่ว่าจะอยู่บ้าน อ่านหนังสือ เล่นเกม ดูหนัง หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำคนเดียว มีอยู่บ้างที่ Introvert ออกไปพบปะผู้คน ใช้ชีวิตสนุกสนาน แต่เมื่อกลับมาอยู่คนเดียว จะหมดเรี่ยวแรง ต้องใช้เวลารีชาร์จพลังงานให้กับตัวเองนานกว่าคนทั่วไป แต่ Introvert ไม่ใช่คนขี้อาย กลัวคน กลัวสังคม แต่แค่จะสบายใจที่จะใช้เวลากับตัวเองมากกว่า
การแบ่งประเภท Introvert
Jonathan Cheek นักจิตวิทยาพบว่ามีความซับซ้อนการนิยามบุคลิก Introvert ของแต่ละคน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลตัวอย่างผู้คนของ Jonathan Creek ทำให้เขาแบ่งประเภทของ Introvert เป็น 4 แบบ ซึ่งใช้ตัวอักษรแทนรูปแบบนี้ว่า STAR (Social Thinking Anxious Restrained) โดยบุคลิก Introvert ก็เป็นการผสมผสานไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นแบบใดแบบหนึ่ง
คุณเป็น Introvert แบบไหน? การแบ่งประเภท Introvert โดย Jonathan Creek แบ่งได้ ดังนี้
Social Introvert เป็น Introvert ที่ยังชอบเข้าสังคม พบปะผู้คนอยู่ แต่ต้องเป็นกลุ่มคน กลุ่มเพื่อนกลุ่มเล็ก ๆ ที่สนิทสนมเท่านั้น ชาว Social Introvert ที่ดูเผิน ๆ คือไม่ชอบพูดคุย อยู่เงียบ ๆ แต่ถ้าได้รวมกลุ่มกับคนสนิท อาจจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นคนเฮฮา สนุกสนานเต็มที่ได้เช่นกัน
Thinking Introvert คือ Introvert ที่ชอบใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง สามารถดำดิ่งใช้เวลาครุ่นคิดอะไรคนเดียวได้เป็นวัน ๆ มีความสุขกับการวางแผนทำโน่นทำนี่อยู่คนเดียว ชอบใช้เวลาอยู่ในโลกของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าหลุดโลกไป แค่รู้สึกลื่นไหลเวลาได้ใช้ความคิดจินตนาการ
Anxious Introvert บุคลิกที่ต่างจาก Social Introvert สำหรับ Anxious Introvert คือ คนเก็บตัวที่อาจแสวงหาความสันโดษ เพราะรู้สึกอึดอัด หรือประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ไม่ค่อยมั่นใจในทักษะการเข้าสังคมของตัวเองมากนัก แต่บ่อยครั้งที่ความวิตกกังวลของพวกเขาก็ไม่จางหายไปถึงแม้จะอยู่คนเดียว
Restrained Introvert คือ Introvert ที่ระมัดระวังตัว คิดเยอะ ใคร่ครวญทุกเรื่อง กว่าจะพูด กว่าจะแสดงออก ต้องมั่นใจก่อน จะให้ทำอะไรปุ๊บปั๊บทันทีคงยาก

ความแตกต่างของ “ขี้อาย” กับ “คนเก็บตัว” (Introvert)
Introvert บางคนก็อาจจะขี้อาย แต่บางคนก็ไม่ นี่อาจเป็นสิ่งที่เข้าใจผิดมากที่สุดเกี่ยวกับ Introvert ความจริงก็คือการเป็น คนขี้อาย และ เป็น Introvert เป็น 2 ลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
การเป็นคนขี้อาย หมายความว่า คุณรู้สึกประหม่าในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทั้ง Introvert และ Extrovert ก็อาจจะเป็นคนขี้อายได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเป็น Extrovert แล้ว จะอายไม่เป็น
Introvert หมายถึง คนที่เหนื่อยกับการต้องพบปะ การเข้าสังคม เจอคนเยอะ ๆ ชอบใช้เวลาอยู่คนเดียว Introvert อาจไม่ประหม่า หรือขี้อายเลย แต่แค่เวลาเจอคนเยอะอาจทำให้เหนื่อย หมดแรง จึงหลีกเลี่ยงเวลาต้องเข้าสังคม
วิธีใช้ชีวิตแบบ Introvert ให้มีความสุขในแบบตัวเอง
อย่าเป็นผู้ให้มากเกินไป
Introvert มักเป็นผู้ฟังที่ดี เงียบขรึม ใจเย็น ทำให้กลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ ที่เข้าหา Introvert แค่เพื่อจะระบายเรื่องราวของตัวเอง
Introvert อาจจะดีใจที่มีคนเข้ามาเริ่มพูดคุย สานสัมพันธ์ก่อน แต่นานวันก็ทำให้เรารู้สึกอึดอัด ไม่ชอบตัวเองที่ต้องเป็นแบบนี้ เพราะ Introvert ถึงจะดูไม่ชอบพูดคุย แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องการแค่พูดคุย สัพเพเหระ อะไรแบบผิวเผิน Introvert อยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์ พูดคุยเรื่องของตัวเองด้วย อยากจะแบ่งปันโลกของกันและกันด้วย
ขอแค่บทสนทนาที่ลึกซึ้ง
“วันหยุดทำอะไร” “ไปไหนมา” “ช่วงนี้ดูซีรีส์เรื่องอะไร” บทสนทนา พูดคุยทั่ว ๆ ไป ใคร ๆ ก็คุยได้ แต่สำหรับ Introvert อาจจะไม่ได้ต้องการการนั่งเม้าส์ครึ่งค่อนวันกับเรื่องสัพเพเหระ แต่ Introvert อยากจะพูดคุยกับคนที่ต่อกันติด ในเรื่องที่ลึกซึ้ง พูดคุยประเด็นที่แหลมคม ได้ใคร่ครวญ ได้ใช้ความคิดมากไปกว่าเรื่องทั่วไป นั่นแหละทำให้ Introvert มีความสุข
จริงใจกับตัวเอง อย่าเสแสร้งแกล้งทำ
Introvert หลายคนต้องแสดงออกบุคลิกที่ขัดกับบุคลิกตัวเอง เพราะหลาย ๆ คนมักโดนทักว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า” “ทำไมเงียบ ๆ” (ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไร แฮปปี้มากกก ปกติที่สุดแล้ว) ซึ่งหลายครั้งความคาดหวังจากคนภายนอก ทำให้ต้องแกล้งทำสนุกสนาน ร่าเริงเกินเหตุ ไม่เป็นตัวเอง
การแกล้งทำร่าเริง ไม่เป็นตัวเองของ Introvert อาจได้ผลในระยะสั้น แต่การพยายามรักษาไว้ในระยะยาวนั้นเป็นเรื่องที่เครียด เราทุกคนต่างก็มีวิธีการใช้ชีวิตในแบบตัวเอง การรักษาความเป็นตัวเองในระดับที่เหมาะสม ไม่ได้ถึงขั้นทำลายความสัมพันธ์กับคนอื่น จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่เหนื่อยจนเกินไป

เมื่อ Introvert ต้องออกไปปาร์ตี้
Introvert ที่ไม่อยากไปปาร์ตี้ ถ้าคิดว่าไม่สนุก ไม่ไหว ไม่อยากไป แล้วไม่มีผลกระทบอะไรกับคนอื่น ก็ไม่จำเป็นต้องไป บอกตัวเองว่าไปแล้วไม่คุ้มกับพลังกาย พลังใจที่สูญเสียไป
แต่ถ้า Introvert ที่จำเป็นต้องไปร่วมงาน ก็อาจจะเกาะกลุ่มกับเพื่อนสนิท หรือกลุ่มคนกลุ่มเล็ก ๆ ไว้ ช่วยให้อึดอัด หรือเหนื่อยน้อยลงแทนที่จะต้องเริ่มทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ ถ้ารู้สึกว่าถึงขีดจำกัดแล้ว ก็ขอตัวกลับก่อน เพราะยิ่งผ่านจุดเหนื่อยหน่ายของตัวเองนานไป เดี๋ยวจะลำบากต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน ดังนั้นก็อาจจะมีกำหนดเวลาไว้ให้ตัวเอง
ไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องขอโทษที่เป็น Introvert
Introvert ไม่จำเป็นต้องขอโทษ อย่ารู้สึกผิดเมื่ออยากอยู่คนเดียว ถ้ามีคนไม่รู้ว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ ก็อธิบายให้ “คนอื่น” เข้าใจว่า Introvert ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อสุขภาพจิต และอารมณ์ที่ดี ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่ถ้ายังไม่เข้าใจเราอีก ก็คงต้องสะบัดบ๊อบใส่ อย่าเป็น Introvert ที่เอาแต่โทษตัวเอง
ขอแค่มีพื้นที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว
ความสุขของ Introvert อาจเพียงแค่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว และเงียบสงบอย่างแท้จริงเพื่อหลีกหนีเมื่อโลกนี้วุ่นวายเกินไป ทางที่ดีควรเป็นห้องที่เราสามารถจัด และตกแต่ง และควบคุมได้อย่างเต็มที่ การอยู่คนเดียวอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกกวน ถูกขัดจังหวะเป็นการเติมพลังให้กับ Introvert ได้มากทีเดียว
ขอเวลา และ พื้นที่ ให้ได้ดำดิ่งกับเรื่องที่สนใจ
การมีเวลาอยู่คนเดียวเพื่อจดจ่อกับงานอดิเรกและความสนใจของเราทำให้เราได้ชาร์จพลังใหม่ ความสุขของ Introvert จึงเพียงแค่มีเวลา และ พื้นที่ส่วนตัวให้ได้ทำสิ่งที่ชอบเงียบ ๆ เช่น นั่งอ่านนิยายออนไลน์ ทำสวน แต่งรถ แต่งบ้าน วาดภาพ ทำอาหาร หรือเขียนหนังสือ ถ้ามันอยู่ข้างนอก คนเก็บตัวจะดำดิ่งลงไปในนั้น เพราะในขณะที่หมกมุ่นอยู่กับงานอดิเรกนั้น
Introvert หลายคนเข้าสู่สภาวะที่ได้รับพลังงานมาก ๆ หรือ นักจิตวิทยา Mihály Csíkszentmihályi กล่าวว่าคือ “สภาวะลื่นไหล” (State of Flow) เป็นสภาวะทางจิตที่คนจะหมกมุ่นอยู่กับกิจกรรม และเพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำอย่างเต็มที่ สภาวะลื่นไหล มักเกิดขึ้นโดยธรรมชาติกับ Introvert เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหากขาดสภาวะนี้ไป Introvert ก็มักจะไม่มีความสุข
ปล่อยวาง
ถ้าคุณเป็น Introvert คุณอาจพบว่ามันยากที่จะปล่อยวางเรื่องต่าง ๆ เป็นธรรมดาที่จะอยากยึดติดกับผู้คน สถานการณ์ และสิ่งของที่เคยทำให้คุณมีความสุข แต่ “ความสุข” มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้จีรัง ถ้าจับแน่นเกินไปจะหายใจไม่ออก หากคุณพยายามที่จะยึดติดมันไว้ ความสุขต้องมีอิสระที่จะเข้ามาและจากไป ถ้าชีวิตมาเจอกับจุดเปลี่ยน สิ่งที่เป็นอยู่อาจจะไม่มีความสุขอีกต่อไป คุณต้องมองหาวิธีใหม่ๆ ที่จะมีความสุข จำไว้ว่ามือที่ยึดติดกับอดีต ก็ไม่อาจได้กอดรัดรับความสุขที่มีอยู่ในปัจจุบันได้
“Happiness is not something ready made. It comes from your own actions.” — Dalai Lama