การพัฒนาและการสอนให้กับบุคลากรต้องมีคุณภาพและความรวดเร็ว เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิผล ดังนั้น ผู้บริหาร ผู้จัดการ และหัวหน้างาน ต้องเป็น “ผู้นำในฐานะโค้ชและพี่เลี้ยง (Leader as Coach & Mentor)” แล้วใช้ทักษะการโค้ช (Coaching) เพิ่มขึ้น เพื่อให้ทีมงานสามารถนำศักยภาพของแต่ละบุคคลออกมาใช้ในการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ การโค้ชเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับกระบวนการพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกระบวนการพัฒนาตนเองของที่ความสามารถของพวกเขาเหล่านั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จขององค์กร นอกจากการโค้ชจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับพนักงานให้สามารถแสดงความสามารถและทักษะออกมาได้อย่างเต็มที่แล้ว การโค้ชยังเป็นเครื่องมือในการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นในด้านความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทีม ความรู้สึกรับผิดชอบต่อทีมในภาพรวม ความสุขในการทำงาน ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพสูงและนำไปสู่ความสำเร็จที่มากยิ่งขึ้นขององค์กร
ข้อมูลการฝึกอบรม
เวลา: 9.00-16.00 น.
จำนวนวัน: 2 วัน
จำนวนผู้เข้าร่วม: สูงสุด 30ท่าน
กระบวนการเรียนรู้: ภาคทฤษฎี 20%
ภาคปฏิบัติ 70%
สรุปและพูดคุยซักถาม 10%
ผู้สอน: เณริศา อิศรางกูร ณ อยุธยา
วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้
- เพื่อทำให้ผู้เรียนเข้าใจความสำคัญของการเป็น “ผู้นำในฐานะโค้ชและพี่เลี้ยง (Leader as Coach & Mentor)” ใน Style จุดแข็งของตัวเอง
- เพื่อให้ผู้นำสามารถดึงศักยภาพของทีมออกมาได้สูงสุด
- เพิ่มศักยภาพของผู้เข้าร่วมอบรมในด้าน ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ (active listening), ทักษะในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล (synthesizing) และการตั้งคำถามที่เหมาะสม (questioning) และสามารถนำทักษะต่างๆเหล่านี้ไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ
ประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมอบรมจะได้รับ
- ทราบจุดแข็งของตัวเองในฐานะการเป็นผู้นำและจุดบอดที่ต้องระวังในการสื่อสาร
- ผู้เข้าร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับการโค้ชและความสำคัญของกระบวนการโค้ชและการเป็นพี่เลี้ยง
- เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของโค้ชแลพี่เลี้ยง
- เพิ่มทางเลือก เครื่องมือและทักษะในการพูดคุยพูดคุยกับทีมเพื่อนำพาทีมเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
- สามารถใช้ G.R.O.W model (กระบวนการเดินทางสี่ขั้น อันได้แก่ เป้าหมาย, สถานการณ์จริง, ทางเลือก, การเดินไปข้างหน้า) ได้อย่างมีประสิทธิภาพในขั้นตอนการโค้ช และสามารถที่จะสร้างบทสนทนาที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่
- ผู้นำสามารถปลดล๊อคและเพิ่มศักยภาพของทีมผ่านบทสนทนาการโค้ช
- สามารถนำกระบวนการโค้ชไปเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์กร ทีมงาน หรือแม้แต่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตส่วนตัวและครอบครัว
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมามุ่งเน้นการพัฒนา SMART Supervisory & Coaching Techniques
S. Strengths-based Approach มุ่งเน้นการปลดล็อคศักยภาพรายบุคคลผ่านการรู้จักตัวเองทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน จุดบอด พร้อมพาจับมือวางแผนการพัฒนาจุดแข็ง ลงมือทำและวัดผลอย่างเป็นขั้นตอน สามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือและทักษะต่างๆ ที่เรียนมาให้เหมาะกับตัวเองได้อย่างเหมาะสม
M. Measurable วัดผลได้
A. Adaptive Leadership พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ ที่เน้นการเรียนรู้ ฝึกฝน ควบคู่ไปกับการลงมือทำจริง ตามแผนทฤษฎี 70 : 20 : 10 ที่เห็นผลลัพธ์จริง
R. Real-problem Mentoring เน้นการลงมือทำจริง เอาปัญหาและความท้าทายหน้างานมาคุย ปรึกษา แบ่งปันกันในห้องเรียน มีโค้ชคอยให้คำปรึกษาเวลาติดปัญหาในการฝึกใช้ทักษะใหม่ๆหน้างานจริงตลอด 6 สัปดาห์
T. Tools-based Approach มุ่งเน้นการใช้เครื่องมือง่ายๆ นำไปฝึกใช้ได้ทันที
Leadership Competency
- Self Awareness
- Leadership & Assertive Communication
- People Management
- Deep Listening
- Coaching & Mentoring
- Feedback
Learning Journey
Day 1 : Unlock Your leadership potential with Clifton StrengthsFinder
Strengths Discovery
– Discover Self & Team’s DNA Discovery : ตระหนักรู้ในตนเอง จุดแข็ง จุดอ่อน จุดบอดที่ต้องระวัง
-รู้จักพรสวรรค์ 34 ตัว จุดแข็ง จุดบอด และจุดอ่อนของตัวเองและผู้อื่นผ่านแบบประเมิน CliftonStrengths
-เข้าใจพฤติกรรมและแพทเทิร์มความคิดที่ฉุดรั้งตัวเอง และแนวทางพัฒนา
Leading Others with Strengths
-คุณสมบัติที่ผู้นำต้องมีและจุดบอดของผู้นำที่ต้องระวัง
-แนวทางการพัฒนาจุดแข็งและจัดการจุดบอดจุดอ่อนของตนเองและทีมงาน
-แนวทางการใช้จุดแข็งในการบริหารทีมและทำงานร่วมกับผู้อื่น
-วิธี Leverage จุดแข็งตัวเองกับทีมงาน
Motivate Others with Strengths
-ศิลปะและจิตวิทยาการจูงใจผู้ใต้บังคับบัญชา
-การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่พึงปรารถนาผ่านจุดแข็ง
-เทคนิคการควบคุมหรือลดพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาของทีมผ่านการเข้าใจจุดแข็ง
Strengths-based Goal Setting & Planning
-หัวหน้างานกับการวางแผนงานและการกำหนดเป้าหมาย (Planning and Goal)
-การบริหารงานประจำวัน (Daily management)
-การบริหารงานและบริหารคน (Job Management and People Management)
-การแก้ไขปัญหา ขจัดข้อขัดแย้งและการตัดสินใจ (Problem Solving and Conflict Management)
Day 2 : Master Your Leadership With S.M.A.R.T (Strengths-based) Supervisory & Coaching Techniques
Strengths-based Supervisory, Coaching, Feedback (การสอนและฟีดแบคงานด้วยจุดแข็ง)
- ประเภทของการสอนงาน
- การใช้จุดแข็งสนับสนุนการสอนงานแบบ SMART
- การนำจุดแข็งมาใช้ในการบริหารทีมประจำวัน
- การสอนงานแบบ Group Dynamic
- การสอนแบบ Demonstration / Mentoring / Coaching
- การเลือกใช้เครื่องมือการสอนและเป็นที่ปรึกษาให้สอดคล้องกับจุดแข็งของตัวเองอย่างเหมาะสม
- เทคนิคการฟีดแบค (CFR)
Directing and Empowering (การสั่งการและการมอบหมายงาน)
- ทักษะการสั่งงาน (Directing Skill)
- เทคนิคการเลือกใช้การสั่งงานประเภทต่างๆ (Selection for Directing)
- ทักษะการสั่งการและมอบหมายงานให้ลูกน้องยอมปฏิบัติด้วยหัวใจ (Empowering Skill)
- เทคนิคการสั่งการและมอบหมายงานให้ได้ทั้งงานและได้ทั้งใจคนจากจุดแข็ง (Empowering Techniques)
- การมอบหมายงานและการติดตามงาน (Empowering and Following)
Communication and Coordinate Techniques (การสื่อสารและประสานงาน)
- การใช้จุดแข็งสนับสนุนการสื่อสารและการประสานงาน
- วิธีจัดการจุดบอดและจุดอ่อนในการสื่อสาร
- เทคนิคการสื่อสารเพื่อจูงใจและลดแรงต้านด้วยจุดแข็ง
- เคล็ดลับการประสานงานให้ได้ใจ และได้งานจากจุดแข็งทีม
Wrap up: สรุปการเรียนรู้ การนำไปใช้ และ Action Plan ในการวางแผนพัฒนาทักษะการโค้ชด้วยจุดแข็งและจัดการจุดบอดของตัวเอง
- เชื่อมโยงความรู้และศักยภาพและจุดแข็งภายในตนเอง เพื่อใช้ในการฝึกฝน