คุณรู้หรือไม่ว่าเราทุกคนในวันนี้มีจิตใต้สำนึกของตัวคุณเองในวัย 6 -12 ขวบ วัยเด็กของคุณ หรือ เด็กน้อยในตัวคุณ ใช้ชีวิตอย่างไรในช่วงนี้ ก็จะได้สมอง ความคิด ความเชื่อและจิตใต้สำนึกอย่างนั้น
ในวัยเด็กเครือข่ายของเซลส์ประสาทจะเริ่มฟอร์มตัวอย่างแน่นหนาในช่วง 0-6 ขวบและกระบวนการตัดแต่งสมองจะเริ่มเมื่ออายุ 9-12 ขวบ ประสบการณ์ที่ดำเนินต่อเนื่องจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดว่า เครือข่ายของเซลส์ประสาทสมองใดจะถูกทำลายและเครือข่ายใดที่ยังคงอยู่
สิ่งที่เด็กน้อยได้รับประสบการณ์ต่อเนื่องมาโดยตลอดช่วง 0-12 ปี จะหล่อหลอมเป็นตัวตนของเด็กคนนั้นขึ้นมาและกลายเป็นตัวคุณในวันนี้ ที่มีความเชื่อ ความคิดความกลัวและกลายเป็นจิตใต้สำนึกที่ขับเคลื่อนชีวิตควบคุมความคิด คำพูดและการกระทำของคุณในปัจจุบัน

วันนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันเพิ่มเติมเพื่อที่จะช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของจิตใจตัวเองกันมากขึ้นค่ะ
จิตใต้สำนึกคืออะไร?
จาก ทฤษฎีภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg Theory) ของ เวอร์จิเนียร์ ซาเทียร์ (Virginia Satir) ได้แบ่งระดับ ของจิตมนุษย์เราไว้ 2 ระดับ คือจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ซึ่ง จิตสำนึก เปรียบเสมือนส่วนของภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้ ทักษะต่าง 1 รวมถึงการกระทำ คำพูด พฤติกรรมบางอย่าง รูปแบบในการดำเนินชีวิต ซึ่งเราสามารถควบคุมได้ ส่วน จิตใต้สำนึกเปยบเสมือนส่วนของภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ใต้น้ำที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ หากเปรียบเทียบดส่วนแล้ว จิตสำนึกของคนเรามีดส่วนเพียงประมาณ 10 แต่จิตใต้สำนึกนั้นมีถึง 90%
จิตใต้สำนึก คือ จิตส่วนที่ทำหน้าที่ในการจดจำ บันทึกข้อมูล เรื่องราวหรือประสบการณ์ชีวิตของเรา ทั้งที่เป็นภาพเหตุการณ์ ความเชื่อ ความรู้สึก ทัศนคติ ทั้งที่เราจำได้และจำไม่ได้ ในสภาวะที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว แล้วสิ่งเหล่านั้นก็ถูกแสดงออกมาเป็น อุปนิสัยและพฤติกรรมองเรา รวมถึงมุมมองทางความคิดหรือทัศนคติองเรา
ไม่ว่าจะเป็นการตีความ ความเชื่อ ความรู้สึกนึกคิด หรือการตัดสินใจ โดยเราไม่สามารถบังคับควบคุมความรู้สึกนึกคิดหรือพฤติกรรมเหล่านั้นได้ เพราะมันทำงานเป็นอัตโนมัติไปแล้ว เช่น การกลัวไม่กล้าปฎิเสธหรือถาม อาการประหม่าเมื่อต้องพูดต่อหน้าคนมาก ๆ การกินทั้ง ๆ ที่ไม่หิวแต่ไม่สามารถห้ามหรือหยุดพฤติกรรมนั้นได้
นอกจากนี้ จิตใต้สำนึก ยังเป็นตัวที่ควบคุมการทำงานของระบบประสาทฮอร์โมน ระบบกล้ามเนื้อ สมองจิตประสาท และระบบอวัยวะภายในของคนเราอยู่ลึก ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
THE POWER OF YOUR SUBCONSCIOUS MIND
จิตใต้สำนึกมีอิทธิพลต่อชีวิตเราอย่างไร?
คุณทราบหรือไม่ว่าจิตใต้สำนึกมีพลังงานและมีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามาก การที่เราจะมีความสุขและประสบความสำเร็จหรือมีความทุกข์ความล้มเหลวในชีวิตนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจของเราเป็นสำคัญ จิตในส่วนลึกที่ควบคุมความคิด คำพูดการกระทำต่าง ๆ ที่เราเรียกว่า”จิตใต้สำนึก” ซึ่งอยู่ลึกลงไปในสมองมากกว่าจิตสำนึก ทว่า มันอยู่ในส่วนของสมองที่ทรงพลังมากกว่าซึ่งจิตใต้สำนึกนี้มีส่วนในการขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตคุณถึง 90% ซึ่งจิตใต้สำนึกนี้จะควบคุมความคิดหรือจิตสำนึกที่มีส่วนในการขับเคลื่อนชีวิตคุณเพียง 10% อีกที หากจะเปรียบเทียบจิตใต้สำนึกกับภูเขาน้ำแข็ง จิตใต้สำนึกจะอยู่ส่วนที่อยู่ใต้น้ำ เป็นส่วนที่ไม่มีใครเห็นและในหลาย ๆ ครั้งเจ้าตัวก็ไม่ทราบ และด้วยความที่มันอยู่ลึกมากจนเจ้าตัวอาจไม่รู้ตัว จึงทำให้จิตใต้สำนึกของ เด็กน้อยในตัวคุณ นี้ไม่เคยได้รับการพัฒนาให้เรียนรู้และเติบโต และด้วยความไม่ตระหนักรู้ จิตใต้สำนักของ เด็กน้อยในตัวคุณ ซึ่งทรงพลังมากจึงขับเคลื่อนชีวิตของคุณไปในทิศทางที่ไม่ได้อยากไปและเป็นพลังงานดึงดูดคนที่ไม่ได้ต้องการได้อย่างง่ายดาย

Cr. ข้อมูลจากเพจ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
ทำความรู้จักที่มาของจิตใต้สำนึกและเด็กน้อยเจ้าปัญหาในตัวคุณ
ในปัจจุบัน จิตใต้สำนึกยอดฮิตที่มักนำพาปัญหามาให้ชีวิตให้กับหลาย ๆ คนมักเป็นจิตใต้สำนึกของเด็กน้อยเหล่านี้ซึ่งเกินจากการเลี้ยงดูที่ขาดความพอดี มากหรือน้อยเกินไปใน 4 มิติ ปกป้อง-เข้มงวด-ตามใจ-ทอดทิ้ง เรามาดูกันว่ามีอะไรกันบ้างค่ะ
- เด็กน้อยขี้หงอ:
#เติบโตมาด้วยการเลี้ยงแบบเข้มงวดและปกป้องเกินควร จะเติบโตมาด้วยบุคลิคและจิตใต้สำนึกแบบพึ่งพาผู้อื่น (dependent child) พ่อแม่เข้มงวดทุกอย่างเป็นไปตามกฎ ระเบียบ กติกา และแผนชีวิตที่พ่อแม่วางไว้ตั้งแต่การเรียน การทำงาน คู่ครอง ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม เด็กอยู่สบายไม่ต้องเสี่ยงอะไร เด็กที่โดนห้ามอยู่ตลอดเวลาหรือถูกเลี้ยงดูมาอย่างถูกบังคับในกรอบด้วยความรักและความหวังดีที่มากเกินไปโดยไม่ได้เจตนาเราก็จะได้เด็กขี้หงอมาคนหนึ่ง โตมาด้วยที่ตอบสนองด้วยการยอม ไม่เคยได้มีโอกาสเลือก ไม่เคยได้มีโอกาสปฏิเสธ เด็กก็จะยอมไปทุกสิ่ง สุดท้าย กลายเป็นเด็กที่ไม่มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง ถูกชักจูงได้ง่าย ไม่กล้าสื่อสาร ไม่กล้าปฎิเสธ ส่งผลให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี
#การนับถือตนเองที่ตำ (low self esteem) รู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า ไม่มีความสามารถ ต้องอาศัยพึ่งพิงคนอืนเสมอ ปฏิเสธคนไม่เป็น พัฒนากลายเป็น
#คนที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจคนอื่นเพื่อให้คนยอมรับตัวเอง (People Pleaser) และขาดการได้รับความเคารพ ชีวิตก็จะเหนื่อยสามารถพัฒนากลายเป็น
#Burn Out วิตกกังวลซึมเศร้าได้ไม่ยาก - เด็กน้อยเอาแต่ใจ :
#เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูแบบปกป้องและตามใจเกินควร
จะได้ลูก ที่มีบุคลิกเอาแต่ใจ (pampered child) ไม่เคยต้องทำงานบ้าน ได้สิ่งของ เงินทองมา. อย่างง่าย เด็กน้อยในกลุ่มนี้มักโดนเลี้ยงดูมาด้วยเงินและสื่งของ เด็กน้อยที่เข้าใจผิดคิดว่าเงินคือทุกสิ่ง เด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยเงินทองสิ่งของขาดความรักความเข้าใจ
ส่งผลให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจตัวเอง หลาย ๆ คนตีค่าความสำคัญในชีวิตมีแค่เงินทองและสิ่งของ แสดงออกทางความรักด้วยการให้ของและเงิน ไม่มองหาและรวมถึงไม่เข้าใจความรักในรูปแบบอื่นเช่นการดูแลเอาใจใส่ การรักษาน้ำใจ รักคนไม่เป็นและมีปัญหาในความสัมพันธ์ได้ ใครที่มีคู่ครองแบบนี้ก็จะเหนื่อยหน่อย
- เด็กน้อยขี้กังวล:
. #เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูแบบทอดทิ้งและเข้มงวดเกินควร
กล่าวคือไม่มีเวลาคุณภาพในการเลี้ยงลูก แต่ก็มีข้อห้าม กฏระเบียบข้อบังคับมากมายเช่น ห้ามคุยกับคนแปลกหน้า และห้ามออก นอกบ้าน เช่นนี้จะทําให้ได้ลูกที่มีอาการ ทางประสาท (neurotic child) คือขี้กลัวไปหมด ไม่กล้าพูดคุยกับใคร ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ทุกอย่างในโลกดูน่ากลัว น่าระแวง ไม่น่าไว้ใจไปหมด - เด็กน้อยจอมต่อต้าน:
เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูแบบตามใจเกินควรและทอดทิ้ง กล่าวคือ ทั้งปล่อยทั้งไม่เลี้ยง อยากทําอะไรก็ให้ทํา ไม่มีกฎระเบียบ ให้ทําตาม ไม่มีศีลธรรมจรรยาให้ต้องสอน ส่งผลให้เติบโตมามีบุคลิก ต่อต้าน สังคม (antisocial, sociopath) ไม่สามารถทําตาม (conform) กติกาของ สังคมได้ นึกจะทําอะไรก็ทําตามอําเภอใจโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่น ไม่รู้สํานึกผิด บางตําราว่ารู้สํานึกผิดไม่เป็น และไร้ความสามารถในการล่วงรู้ความ เจ็บปวดในใจของผู้อื่น (lack of empathy) ถ้าถูกดุ ถูกตีอยู่เป็นนิจ เด็กก็จะใช้ วิธีการสู้ในการตอบสนองกลับต่อไปจนตลอดชีวิต กลายเป็นเด็กก้าวร้าว รุนแรงและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต่อต้านสังคมและ ก้าวร้าว เป็นอันตรายต่อสังคม
เมื่อเด็กน้อยเหล่านี้เติบโตขึ้น จะมีโอกาสสูงที่จะมีปัญหาในการดำเนินชีวิต ไม่มีความสุขโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเด็กน้อยเหล่านี้มีโอกาสได้มาคบกันแต่งงานกันโอกาสจะมีสูงมากเพราะคุณจะดึงดูดคนที่มีระดับความนับถือตนเองต่ำและมีจิตใต้สำนึกระดับเดียวกันมาเจอกัน โดยที่หลาย ๆ คนไม่ได้ตระหนักรู้ว่าความคิด ความเชื่อและพฤติกรรมทั้งหลายของคุณในวันนี้มันฝังอยู่ลึกมากในระดับจิตใต้สำนึกในตัวคุณตั้งแต่วัยเด็ก และโอกาสที่คุณจะมีปัญหาด้านความสัมพันธ์จะมีสูงตามมาเช่นกัน
หากในวันนี้คุณมีลูก ขอจงมีสติในการเลี้ยงลูก เพราะในทุกวัน และทุกประสบการณ์ของเขา จะหล่อหลอมทั้งบุคลิคและจิตใต้สำนึกในการเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต
ผลลัพธ์ของชีวิต มาจากระบบความคิดและจิตใต้สำนึกในวัยเด็ก..
ถึงเวลาแล้วที่เด็กน้อยในตัวคุณที่จะต้องพัฒนา เรียนรู้และเติบโต และโบยบิน……
หากในวันนี้คุณได้มีเวลาอยู่กับตัวเองและตระหนักรู้ว่าเด็กน้อยในตัวคุณคือเด็กน้อยเหล่านี้ ขอจงเข้าใจว่าอดีตผ่านไปแล้ววันนี้คุณมีสิทธิ์เลือกที่จะมีชีวิตใหม่ได้ เพียงแค่คุณยอมรับและเข้าใจว่าถึงเวลาแล้วที่เด็กน้อยในตัวคุณจะต้องหัดเรียนรู้ เติบโตเปลี่ยนแปลงเสียที
จากวันนี้เพียงแค่คุณเลือกที่จะเรียนรู้และลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอง พัฒนาความคิด ทักษะชีวิต ก้าวข้ามความกลัวและจัดการปรับเปลี่ยนทั้งจิตสำนึกควบคู่ไปกับจิตใต้สำนึกต่าง ๆ ที่ฉุดรั้งคุณไว้ ให้เวลาสมองของคุณในการสร้างเครือข่ายเซลส์เส้นประสาทใหม่ของการทำเรื่องใหม่ ๆ (สำหรับเด็กน้อยในตัวคุณ) ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้ต้องใช้เวลาแต่รับรองว่าการเรียนรู้ เติบโตและเปลี่ยนแปลงของเด็กน้อยในตัวคุณในครั้งนี้ จะคุ้มค่าต่อชีวิตที่เหลืออยู่ในทุกมิติและจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานและเรื่องความสัมพันธ์ที่จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

เรื่องนี้เป็นเรื่องซับซ้อนและลึกซึ้ง ไม่สามารถจัดการเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามวัน อย่างน้อยในวันนี้คุณได้เข้าใจที่มาที่ไปของความคิด คำพูดและการกระทำรวมถึงการทำงานของจิตใจตัวเองมากขึ้นแล้วก็จะสามารถจัดการได้ดีขึ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
บทความเขียนโดย เณริศา อิศรางกูร ณ อยุธยา
MindSpring Consulting
———————————————————————————————-
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
6 แนวทางการพัฒนาจิตใต้สำนึก >>
People-Pleaser (ตามใจคนอื่น ฝืนใจตนเอง) >>
Codependency Relationship ความรักและสัมพันธ์แบบพึ่งพาหรือ ‘ยึดติดกันและกัน’ โดนทำร้ายจิตใจแค่ไหนก็ยังเลือกที่จะอยู่ >>
ท่านที่สนใจพัฒนาโลกภายในให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง ก้าวข้ามสิ่งฉุดรั้งอย่างตรงจุด
ทาง MindSpring มีโปรแกรมการพัฒนาตนเองเพื่อปลดล็อคสิ่งฉุดร้างต่างๆภายในตัวคุณ
“โปรแกรมการโค้ชผสานการโปรแกรมจิตใต้สำนึก (โดยโค้ชระดับ PCC)” จะพาคุณลบ ล้าง ลืม ความรู้สึกและคามทรงจำบางอย่างที่ฉุดรั้งคุณเอาไว้ ที่จะสามารถช่วยร่นระยะเวลาให้คุณสามารถมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตได้เร็วขึ้น
Scope ในการพัฒนาและโปรแกรมจิตใต้สำนึก :
– พัฒนาความสัมพันธ์
– จัดการความกลัวต่างๆ
– ลดความเครียด
– จัดการความรู้สึกไม่ดีพอ เพิ่ม Self-esteem
และอีกมากมาย