“แกมันโง่ แกมันจน ไม่มีหัวนอนปลายเท้า” “คนอย่างแกจะมาสู้อะไรฉันได้” !!
บทพูดแบบละครคุณธรรมใน TikTok ที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอในชีวิตทั่วไป เชื่อไหมคะว่าเราอาจจะได้เจอในชีวิตจริงเข้าสักวัน เพราะคนประเภทที่ด้อยค่า ดูถูก เหยียดหยาม หลงตัวเองแบบนี้ มีปะปนอยู่รอบตัวเรามากมาย แบบที่เราอาจจะได้เจอจัง ๆ เข้าสักวัน
คนที่มีนิสัยดูถูกคนอื่น โรคหลงตัวเอง ที่เราพบเจอได้ในออฟฟิศ ที่ทำงาน ในรอบ ๆ ตัว ที่เรามองว่าเป็นคน Toxic คนที่เราไม่อยากเจอ ไม่อยากร่วมงานด้วย อาจไม่ใช่แค่คนนิสัยเสียธรรมดา เพราะคนเหล่านี้อาจเข้าค่ายมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ หรือ ในทางจิตวิทยาเรียกพฤติกรรมนี้ว่า Narcissism หรือ บุคลิกภาพแบบหลงตนเองก็เป็นได้
โรคหลงตัวเอง Narcissistic Personality Disorder คือ อะไร
โรคหลงตัวเอง หรือ บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) คือ ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ เป็นภาวะสุขภาพจิตที่คนเราเห็นถึงความสำคัญของตัวเองสูงเกินไป ต้องการและเรียกร้องความสนใจ และต้องการให้ผู้คนชื่นชมมากจนเกินไป
คนที่มีพฤติกรรมนี้จะขาดความสามารถในการเข้าใจ หรือใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่น แต่ภายใต้หน้ากากแห่งความมั่นใจสุดขีดนี้ พวกเขาไม่มั่นใจในคุณค่าของตนเอง และรู้สึกไม่พอใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์แม้จะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองทำให้เกิดปัญหาในชีวิตหลายด้าน เช่น ความสัมพันธ์ การงาน การเรียน หรือเรื่องการเงิน โดยทั่วไปแล้วคนที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองมักจะไม่มีความสุข และผิดหวังเมื่อพวกเขาไม่ได้รับสิทธิพิเศษ หรือความชื่นชมที่พวกเขาเชื่อว่าสมควรได้รับ
ลักษณะบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองในทางจิตวิทยา
คนที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง ที่เรียกว่า Narcissism ในคู่มือการวินิจฉัยและสถิติของความผิดปกติทางจิต ฉบับที่ 4 (DSM-IV) ระบุว่าบุคลิกภาพแบบหลงตนเอง มีลักษณะเด่น ดังนี้
“การเห็นว่าตนดีกว่าหรือเหนือกว่าผู้อื่น ต้องการเป็นที่สนใจ แสวงหาการได้รับการยกย่องชื่นชม และได้รับความสนใจในฐานะเป็นบุคคลสำคัญ
คาดหวังว่าตนจะเป็นที่รักของผู้อื่น และได้รับความสนใจในฐานะเป็นบุคคลสำคัญ หมกมุ่นอยู่กับความเพ้อฝันในความสำเร็จ อำนาจ ความรุ่งโรจน์ ความฉลาด ความสวยงาม รวมถึงประเมินความสามารถของตนสูงเกินความเป็นจริง ประกอบกับคิดถึงแต่ตนเองเป็นที่ตั้งและยึดตนเองเป็นศูนย์กลางเพื่อให้ตนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
รู้สึกว่าตนสมควรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อตนเอง เพราะตนเองมีความหมกมุ่นในสิ่งที่ปรารถนา รวมทั้งขาดความเห็นอกเห็นใจ ไม่สนใจหรือรับรู้ความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่น แสดงพฤติกรรมและเจตคติในลักษณะที่หยิ่งยโส อวดดี ปกป้องตนเองจากคำวิจารณ์ของผู้อื่นและอิจฉาผู้อื่น ซึ่งลักษณะเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล” – (คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
สาเหตุการเกิดบุคลิกหลงตัวเอง “โรคหลงตัวเอง” Narcissistic Personality Disorder
- มีพ่อแม่ หรือคนที่เลี้ยงดูใกล้ชิดมีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง Narcissism
- ถูกปล่อยปละละเลยตั้งแต่วัยเด็ก พ่อแม่ทอดทิ้ง ทำให้ขาดความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Empathy)
- ในทางตรงข้าม บางคนอาจถูกเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ ปกป้องมากเกินไปในวัยเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกเป็นคนพิเศษสูงส่ง คิดว่าตนเป็นศูนย์กลางของทุกคน
ลักษณะ พฤติกรรมโรคหลงตัวเอง – Narcissistic Personality Disorder
- บุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง ต้องการเป็นคนสำคัญตลอดเวลา อยากเป็นที่สนใจจากคนอื่น
- สนใจคนที่เปลือกนอก คนที่สำคัญ มีชื่อเสียง มีฐานะ ทำตัวน่าคบกับคนบางคน
- ต้องการได้รับการยกย่อง ชื่นชมแบบมากจนเกินไป
- รู้สึกว่าตัวเองสมควรได้รับสิทธิพิเศษ และการดูแลเป็นพิเศษ
- คาดหวังที่จะได้รับการยอมรับว่าเหนือกว่าคนอื่นแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม
- หมกมุ่นอยู่กับจินตนาการเกี่ยวกับความสำเร็จ อำนาจ ความฉลาดหลักแหลม ความสวย ความงาม ชื่อเสียง หรือ การมีคู่ครองที่สมบูรณ์แบบ
- เชื่อว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่น และเลือกคบคนในระดับเดียวกันเท่านั้น
- วิพากษ์วิจารณ์ และดูถูกคนที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่สำคัญ
- คาดหวังความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และคาดหวังให้ผู้อื่นทำสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยห้ามตั้งคำถาม ห้ามวิพากษ์วิจารณ์
- อ่อนไหวกับคำวิพากษ์วิจารณ์ รับ Feedback จากคนอื่นไม่ได้
- ใช้ประโยชน์จากผู้อื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
- เข้มงวด ไม่รู้จักยืดหยุ่น
- ไม่เต็มใจที่จะรับรู้ความต้องการ และความรู้สึกของผู้อื่น
- อิจฉาคนอื่นและเชื่อว่าคนอื่นอิจฉาตัวเอง
- มีพฤติกรรมหยิ่งผยอง อวดดี
- เติมเต็มความรู้สึกขาดด้วยวัตถุ สิ่งของราคาแพง เช่น รถสปอร์ตหรูหรา ของใช้แบรนด์เนม ฯลฯ
ภายในที่แท้จริงของบุคลิกภาพ “หลงตัวเอง”
คนที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง แม้จะคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ แต่ลึก ๆ แล้ว เป็นคนที่เห็นคุณค่าตัวเองในระดับต่ำ เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กว่าคนจะรักหรือจะมีเพื่อนได้ต้องมีเปลือก วัตถุ การพยายามเพิ่มคุณค่าให้กับตนเองอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นไปเพื่อรักษาภาพลวงตาที่ตนได้สร้างเอาไว้ แท้ที่จริงว่างเปล่า ไม่มีความสุข เศร้า สร้างเปลือกของความสุข พยายามเติมเต็มความรู้สึกขาดด้วยวัตถุ และการกด เหยียด ดูถูกคนอื่น

พฤติกรรมโรคหลงตัวเองส่งผลกระทบต่อองค์กร อย่างไร
- ที่ทำงานไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย
- ขาดความเคารพ เชื่อใจกัน
- ขาดพื้นที่แห่งการเรียนรู้
- เกิดความขัดแย้ง
- บรรยากาศการทำงานไม่ดี
- ความเครียดของคนในทีม
เครื่องมือที่จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง
คนที่มีบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง หรือพวก Narcissistic จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างง่าย ๆ อาจต้องใช้วัฒนธรรมองค์กรมาเป็นส่วนช่วย เพื่อลดความขัดแย้ง
- คุณค่า (Values) การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้มีคุณค่าเหมาะสมกับทิศทางขององค์กร คุณค่าที่ดีช่วยจะปรับมุมมองและการทำงานของพนักงานทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว
- การประเมินผลแบบ 360 องศา (360-degree Feedback) การประเมินโดยผู้บริหาร หรือหัวหน้างานอาจไม่เพียงพอต่อการสะท้อนถึงการทำงานรอบด้านได้ การประเมินแบบ 360 องศา จะช่วยประเมินการทำงานได้อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้างาน
วิธีการรับมือกับหัวหน้า หรือ คนที่มี พฤติกรรมโรคหลงตัวเอง
- เล่นตามน้ำไป ให้ได้ก็ให้ ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงพวกเขา คนหลงตัวเองไม่เคยเปลี่ยนแปลง ถ้าเขาอยากได้รับคำชม ก็ชื่นชมเขาไป ไม่ต้องเสียเวลาไปให้ฟีดแบ็ก หรือ วิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ
- หาจุดแข็งของตัวเราเอง สร้างความภาคภูมิใจในตนเอง คนหลงตัวเองมักจะพยายามทำลายคุณและดูถูกคุณ ลองหาจุดแข็งของตัวเองที่เขาจะต้องพึ่งพา และขาดเราไม่ได้
- มีจุดยืนในการสื่อสาร มีความสามารถในการแสดงจุดยืน ให้สื่อสารบอกความต้องการของเรา และกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน
- มีความตระหนักรู้ ในความรู้สึกตัวเอง รู้ความต้องการ มีความชัดเจน รู้ว่าตัวเราชอบ ไม่ชอบอะไร ตัวตนเราเป็นอย่างไร
- อย่าหลงกล ให้เขาด้อยค่า หากคุณถูกหัวหน้า หรือ เพื่อนร่วมงานด้อยค่า ดูถูก ถ้าหากตัวเราไม่ใช่แบบที่เขาพูด อย่าปล่อยให้เขาด้อยค่าคุณจนหลงเชื่อว่าตัวเองเป็นแบบนั้น ผู้บริหารที่มีบุคลิกภาพหลงตัวเอง มักใช้การด้อยค่าคนทำงานภายใต้การบริหารของตน ถ้าเราจดจำใส่ใจถ้อยคำ ท่าทางแบบนี้สะสมไว้นานวัน เราจะค่อย ๆ ด้อยค่าตัวเราเองมากขึ้นไป
- รู้เท่าทัน เพิกเฉย ไม่ตอบสนอง เช่น คนที่หลงตัวเอง โอ้อวด อวดร่ำอวดรวย อวดหน้าที่การงานแบบมากเกินไป ให้ปล่อยเขาไป อยากพูดอยากอวดอะไรก็ไม่ต้องสนใจ มองเขาอย่างเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่มีบุคลิกภาพผิดปกติ เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้
REF: