-
- แบบทดสอบจุดแข็ง Gallup-CliftonStrengths
- หลักสูตรองค์กร
- Public Workshops
- คอร์สออนไลน์
- ที่ปรึกษาและโค้ชส่วนตัว
- About
โปรแกรมพัฒนาตนเองด้วยจุดแข็ง
9-Weeks Strengths-based Personal
Development Program
Simple, Practical, Science-based
Step-by-step Journey
คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตในแต่ละวันแบบ Outside-in เดินตามเป้าหมายบนความคิด ความเชื่อ ความคาดหวังและแรงกดดันของคนอื่น อาจเป็นครอบครัวหรือกรอบสังคมที่ตัวคุณเองก็อาจไม่รู้ตัว
หลายๆคนถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ด้วยความเชื่อที่ว่า…เราต้องเรียนให้เก่ง ทำคะแนนให้ได้ดีทุกวิชา ใช้เวลาส่วนใหญ่แก้ไขจุดอ่อน โดยมุ่งการติวและซ่อมวิชาที่อ่อน ละเลยการพัฒนาจุดแข็งมาตั้งแต่เด็ก จึงใส่พลังงานใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับเรื่องที่เราไม่ถนัด ขาดโอกาสพัฒนาพรสวรรค์ให้เป็นจุดแข็งที่มีลักษณะเฉพาะอย่างน่าเสียดาย
ทั้งหมดนี้เกิดจากสาเหตุหลักๆไม่กี่เรื่องดังนี้
1. ไม่รู้จักจุดแข็งของตัวเอง หลายๆคน สามารถทำได้ทุกอย่าง จึงไม่ใช้พรสวรรค์และจุดแข็งของตัวเองอย่างเต็มศักยภาพกับเรื่องที่ควรใช้
2. ไม่เข้าใจวิธีการจัดการจุดบอดและจุดอ่อนของตัวเอง
3. ขาดเป้าหมายชีวิต และความเชื่อที่มีคุณภาพสอดคล้องกับตัวตน
เมื่อใช้ชีวิตแบบนี้เป็นระยะเวลานานจะนำไปสู่ผลเสียต่อชีวิตและความสัมพันธ์ทั้งทางด้านอารมณ์และจิตใจ ส่งผลให้ออกห่างจากตัวตนและใช้ชีวิตสวนทางกับความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ขาดความสอดคล้องของโลกภายในและโลกภายนอก ทั้งตัวตน ความคิด ความรู้สึก และสิ่งที่ทำ ผสานกับการมีพฤติกรรมและกรอบความคิดบั่นทอนตัวเอง (Self-Sabotage) โดยไม่รู้ตัวเป็นระยะเวลานาน เป็นต้นเหตุของภาวะความเครียดสะสม เกิดความขัดแย้งในใจตัวเองไม่มีความสุขในการทำงานและการใช้ชีวิตขาดสมดุลชีวิต มีปัญหาสุขภาพและอารมณ์ และความสัมพันธ์ บั่นทอนพลังชีวิตตัวเองและสุขภาพกายใจในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว
การไม่รู้จักตัวเอง ขาดเป้าหมาย และขาดความสอดคล้องจะส่งผลให้สภาวะจิตใจเป็นดังรูปนี้
ผู้รับการโค้ชต้องทำแบบประเมินจุดแข็ง และ เตรียมวางแผน Career Planning ให้เรียบร้อย อย่างน้อย 7 วัน ก่อนรับการโค้ช
เราจะช่วยชี้ทางให้คุณเห็นว่าอะไรในตัวคุณที่เปรียบเสมือนโถแก้วที่ฉุดรั้งและกั้นความสุขความสำเร็จของตัวคุณเองไว้ พร้อมพาคุณบินออกจากโถแก้วด้วยการก้าวข้ามสิ่งต่างๆในตัวคุณเอง
เรามุ่งเน้นการพัฒนาแบบองค์รวมเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่สมดุลที่ยั่งยืน เราจึงพัฒนา SPRING™ 6 Steps of Transformation Model เพื่อเป็นเครื่องมือในการโค้ชเพื่อการเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นการพัฒนา 6 มิติสำคัญในชีวิตให้สอดคล้องกัน เราใช้กระบวนการที่แตกต่างและยั่งยืนกว่าการโค้ชทั่วไปด้วยการผสานการโค้ชด้วย 4 ศาสตร์ที่มุ่งเน้นการทำงานกับโลกภายในเพื่อการปรับเปลี่ยนกรอบความคิดและพฤติกรรมเชิงบวก
Strength & Authentic-Self Awareness
Meaningful Purpose & Fulfilment
Positive Relationship of Self & Others
Inner World Alignment
New Way of Thinking and Doing
Getting Things Done
Behavior Cycle
– รู้จักตัวตนตามธรรมชาติ (Authentic-Self) ที่มาของศักยภาพ สำรวจวงจรพฤติกรรม ความคิด ความเชื่อ ความรู้สึก จุดแข็ง จุดอ่อน จุบอด สู่การกระทำและผลลัพธ์ในปัจจุบัน
– รู้จักตัวเองว่าเราคือใคร แตกต่างจากคนอื่นอย่างไร สามารถใช้พรสวรรค์และจุดแข็งที่มีอยู่ในตัวสร้างความแตกต่างและสามารถ connect กับคนรอบตัวได้ดีขึ้น
– รู้จุดบอด Blind spot เข้าใจกลไกการป้องกันตัวเอง (Defense Mechanism) และพฤติกรรมการฉุดรั้งตัวเอง (Self-Sabotage) ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่เรายังเป็นวัยเด็ก ทำให้เรามีพฤติกรรมและการตอบสนองรับมือมือกับเรื่องราวต่างๆในด้านลบ
-รู้ความรู้สึก (Real Feeling) และความต้องการ (Needs) ที่แท้จริงของตัวเอง
– มุ่งเน้นการทำความเข้าใจความต้องการของตนเอง และการตั้งเป้าหมายและมีทิศทางชีวิตที่ชัดเจนสอดคล้องกับโลกภายใน
– ชัดเจนกับความต้องการของตัวเอง มีเป้าหมายชีวิต วิสัยทัศน์และแผนการลงมือทำในปีถัดไป
– นิยามความหมายและหน้าตาความสำเร็จและความสุขของตัวเองใหม่ (Inside-out Success)
– รู้วิธีพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองเลิกนิสัยบั่นทอนตัวเอง (Self-sabotage) เปลี่ยนแปลงการตอบสนองต่อโลกเป็นเชิงบวก มุ่งเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับตนเองและคนรอบข้าง จากภายในสู่ภายนอก
– พัฒนาการใช้ภาษาเชิงบวกทั้ง Self Talk และการสื่อสาสารกับคนรอบข้าง
– รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ขาดหายไป เข้าใจวิธีการเติมเต็มและดูแลตัวเองในแบบที่เหมาะสมเฉพาะตัวของคุณ
– เข้าใจ trigger ของพฤติกรรมฉุดรั้ง เพื่อหยุดวงจรและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่
– ปรับเปลี่ยนการใช้ภาษาสมองส่วนความคิดเชิงลบ (Problem Talk) มุ่งใช้ศักยภาพการใช้ภาษาสมองส่วนความคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Talk)
– มุ่งเน้นการพัฒนาโลกภายในของตัวเอง เช่น กรอบความคิดที่บูดเบี้ยว อคติ ความไม่จริง ความคิดแบบเหมารวม ความเชื่อที่ผิดๆ ความกลัว ที่ฉุดรั้งตัวคุณไว้ ให้มีความสอดคล้องทั้งโลกภายนอก (Conscious Mind) และโลกภายใน (Sub-conscious Mind)
– ฝึกฝนซ้ำๆ เพื่อสร้างกรอบความคิด ทักษะและพฤติกรรมใหม่ที่ยั่งยืน
– เข้าใจแนวทางการบริหารจัดการชีวิตด้วยหลักผ่อนแรงและลงมือทำ
– เข้าใจวิธีการส่งต่อพลังงานให้มี efficiency & happiness flow ช่วยให้การใช้ชีวิตทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเบาสบายขึ้นและเหนื่อยน้อยลง
ผ่านประสบการณ์การเปลี่ยนสายอาชีพจากบัญชีการเงิน ไปการตลาด HR และ จบลงด้วยงานที่รักคือที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรและพัฒนาตนเอง ประสบการณ์ทำงานในระดับผู้บริหารกว่า 20 ปี จากหลากหลายสายงาน ทั้งการเงินการธนาคาร, Management Trainee , Brand Manager, Private Banking, การตลาด, Digital Transformation, Omnichannel Management, Training & HR ในระดับผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำ อาทิ DBS Thai Danu, Shell Thailand, Citibank, Phatra Merill Lynch, ING Funds, Cavallino Motors, Nappi Baby, MindSpring Coaching & Consulting
Certification:
* Certified NLP Master Practitioner, American Board of Neuro Linguistic Programming
* Gallup-certified CliftonStrength Coach
* Certified Transformational Coach, Professional Level
* NVC (Non-violence Communication) Empathy Coaching
1. Self Assessment | ผู้รับการโค้ชทุกท่านจะต้องทำแบบทดสอบทางจิตวิทยา CliftonStrengths >> ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
วิเคราะห์บุคลิกภาพ ค้นหาตัวตน และพฤติกรรมบ่อนทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว (Self-Sabotage)
3. Personalized Coaching Journey | อจ. แป้มวาง Coaching Journey ให้ส่วนบุคคลหลังจากเห็นผลแบบทดสอบ
4. One on One Coaching & Mentoring | ดำเนินการโค้ชตาม Journey และตารางเวลาที่ตกลง ทางโปรแกรม Zoom
5. Reinforcement Program | เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตลอดการเข้าโปรแกรมการ จะมีการ Check In และอัพเดทความคืบหน้า และมี Self-Work, Online Video ให้ดูระหว่าง Session ตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์
ทั้งนี้โปรแกรม ไม่มีรายงานสรุปความคืบหน้าเป็นทางการ บุคคลที่ทราบและรู้สึกได้ถึงความคืบหน้า หรือพัฒนาการในเรื่องที่ได้รับการโค้ชที่ดีที่สุดนั้น คือตัว Coachee อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาต้องขอย้ำว่าปัจจัยหลักที่จะทำให้การโค้ชประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทั้งฝ่าย Coach (ที่จะต้องมีความเข้าใจในเรื่องความต้องการของ Coachee อย่างชัดเจน) และ Coachee โดยที่ทาง Coachee จะต้องมีความตั้งใจจริงในการรับการโค้ช (High Commitment) ซึ่งหมายรวมถึงการจัดเวลา ทำการบ้านและการทำกิจกรรมต่างๆที่ทาง Coach อาจให้ใว้ในการโค้ชแต่ละครั้ง
ผู้เข้ารับการโค้ชสามารถเลือกพัฒนาเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษได้ในช่วงระหว่างการปรึกษา มุ่งเน้นการพัฒนาตนเองแบบองค์รวม (whole Person Development) โดยมุ่งเน้นสิ่งที่แต่ละท่านต้องการก้าวข้ามอาทิเช่น
– ขาดแรงบันดาลใจในชีวิตและไม่มีความสุขกับงาน
– สับสนและขาดเป้าหมายชีวิต
– รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ และไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตนเองถนัด
– Burnout เบื่องาน หมดไฟ
– ตั้งใจ มุ่งมั่นแต่ชีวิตไม่เดินหน้า ต้องการออกจาก Comfort Zone แต่ทำไม่ได้สักที
– ชีวิตการทำงานวุ่นวาย แต่ไม่ได้ผลลัพธ์แบบที่ควรจะเป็น
– ตามหาบางอย่างในชีวิตที่ขาดหายไป แต่่ไม่รู้ว่าคืออะไร
– กำลังรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ไม่รู้จะทำอะไร
– เริ่มมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ ทั้งกับตัวเองและคนใกล้ชิด
– ขาดสมดุลชีวิต
– ผู้ที่คิดว่ารู้ทุกอย่างแล้วและเป็นน้ำเต็มแก้ว
– ผู้ที่ไม่พร้อมรับรู้และจัดการจุดอ่อนและจุดบอดของตัวเอง
– ผู้ที่ไม่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ และไม่ได้สมัครใจในการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง
– ผู้ที่ไม่สามารถจัดเวลาให้ First Priority กับตัวเองได้ในช่วง 1-3 เดือน
หากมีข้อใดข้อหนึ่งจากด้านบนนี้แสดงว่าท่านยังไม่พร้อมที่จะเข้าโปรแกรม
– ผู้ที่ผ่านการเรียนรู้และรับการโค้ชมาหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ผล เคยลองปรับหมุนมาหลายทางแต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ มองหาอะไรที่แตกต่าง ที่เวิร์ค ถูกจริตกับตัวเองและได้ผลจริง
– ผู้ที่เข้าใจว่าการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองต้องใช้เวลา ใช้ความตั้งใจ วินัย เพราะเรากำลังเวิร์คกับแพทเทิร์นความคิด นิสัยเดิมๆที่ทำมานานและจะได้ผลลัพธ์สูงสุดเมื่อมีการโค้ชต่อเนื่องอย่างน้อย 6 ครั้ง
Online Workshop ทาง zoom/ Online Course ทาง www.mindspringthailand.com / Private Coaching ทาง zoom
หลังจากชำระเงินทางทีมงานจะให้ทำแบบทดสอบจุดแข็งก่อน
เมื่อทำเสร็จแล้ว
สามารถดูวิดิโอคอร์สออนไลน์ได้ภายใน 1 ปี
ได้ค่ะ สามารถติดต่อได้ทาง Line @mindspring